17 เมษายน 2555

จะจบอย่างไร?

   
   กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่สามารถไปทำหนังได้เลยทีเดียว กับกรณีของบัวขาว ป.ประมุก (สมบัติ บัญชาเมฆ) ซึ่งหลังจากวันที่ 17 เมษายน 2555 เจ้าตัวได้ขึ้นชกมวยในรายการ ไทยไฟต์ THAI FIGHT ซึ่งเป็นศึกมวยรายการใหญ่ และได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก


       ซึ่งเรื่องราวย้อนหลังทุกท่านสามารถอ่านข่าวได้จากสื่อต่างๆทั่วไป เพราะทุกคนให้ความสนใจกับกรณีดังกล่าวอยู่แล้ว....ผมจึงขออนุญาตไม่กล่าวถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า  แต่เนื่องจากมีเพื่อนๆของผมหลายคนสงสัยกับกรณีที่เกิดที่บัวขาวขึ้นชกรายการดังกล่าว และหลังเกมมีการให้สัมภาษณ์...และเกิดวลีเด็ด ที่เด็ดกว่าคำว่า "เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่ !" เป็น "ถึงวันพรุ่งนี้ผมต้องติดคุก...ผมก็ยอม" 


   

       หลายคนสงสัยว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร หรือว่าประเด็นสำคัญของเรื่องคืออะไร..........ผมคงต้องขอมารับใช้ให้ผู้อ่านได้ทราบอย่างคร่าวๆดังนี้ครับ


       การดำเนินการแข่งขันมวยไทยในประเทศไทย นั้น มีหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อคอยดูแลรับผิดชอบในทุกๆส่วน ซึ่งก็คือ สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย ทำหน้าที่ในการดูแลและควบคุมการแข่งขันมวยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง และรวมไปถึงการดูแลสิทธิและสวัสดิภาพของบุคลากรในวงการกีฬามวย ทั้งนักมวย อดีตนักมวย ผู้ฝึกสอน หัวหน้าค่าย ผู้ตัดสิน ผู้จัดรายการแข่งขัน ทั้งนี้ก็เพื่อควบคุมให้เกิดความเท่าเทียมและป้องกันการเอารัดเอาเปรียบ........ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติกีฬามวย พุทธศักราช 2542 (และมีการปรับเปลี่ยนแก้ไขเรื่อยมา)


       การที่นักมวยจะเข้าแข่งขันในสนามมวยมาตรฐาน (ลุมพินี ราชดำเนิน อ้อมน้อย) นั้นนักมวยจะต้องขึ้นทะเบียนเป็นนักมวยไว้กับสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ซึ่งในส่วนของการขึ้นทะเบียนนั้น มีเอกสารอยู่ 1 ฉบับซึ่งเรียกว่า "สัญญาสังกัดค่ายมวย" ซึ่งเป็นสัญญาที่ทำขึ้นผูกไว้กับค่ายมวยต้นสังกัด เปรียบเสมือนเป็นการลงนามความร่วมมือ และปกป้องสิทธิประโยชน์ของตัวนักมวยและหัวหน้าค่ายหากมีการฝ่าฝืนหรือผิดสัญญา  ผู้เสียหายสามารถฟ้องร้องได้ตามสัญญา         ซึ่งสัญญาที่ผูกมัดนักมวยกับทางค่ายนั้น หากเป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 15 ปีบริบูรณ์ จะมีสัญญาในการทำแต่ละครั้งไม่เกิน 8 ปี 


       จากกรณีก่อนหน้าที่บัวขาว ป.ประมุกได้หนีออกจากค่ายไม่ทำการฝึกซ้อม หรือจะขอลาออกจากค่ายก็สุดจะแล้วแต่.........ประเด็นนี้ต้องไปดูสัญญาที่ทำกับสังกัดว่ายังเหลือสัญญาจากที่บันทึกไว้อีกกี่ปี ซึ่งถ้ายังไม่ครบ กรณีนี้ทางค่ายสามารถเรียกค่าเสียหายได้


       กรณีถัดมา นักมวยขึ้นชกในรายการไทยไฟต์ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2555 นั้น นักมวยทำผิดกับสัญญาอย่างชัดเจน ขออนุญาตยกหัวข้อในสัญญา (ซึ่งผมเขียนไปนั่งอ่านสัญญาไป ^^) ดังนี้ครับ
       ข้อ 7. หัวหน้าค่ายมวยตกลงจะส่งเสริม สนับสนุนนักมวยได้เข้าร่วมการแข่งขัน โดยจะต้องเสนอชื่อนักมวยซึ่งไม่อยู่ในระหว่างถูกลงโทษให้พักการแข่งขัน เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันเป็นประจำตามความเหมาะสม
       หัวหน้าค่ายตกลงจะปกป้องสิทธิของนักมวยตามกฎหมาย และจะต้องแจ้งการกำหนดเงินรางวัลค่าตอบแทนในการแข่งขันกีฬามวยแต่ละครั้งให้นักมวยทราบ ก่อนที่จะทำหลักฐานเป็นหนังสือกับผู้จัดรายการแข่งขันมวย


       พิจารณาจากเหตุการณ์และข้อสัญญาผมขอสรุปก็คือ  เป็นหน้าที่ของค่ายมวยในการพิจารณาส่งนักมวยในสังกัดเข้าร่วมการแข่งขันในรายการต่างๆนั่นเอง  แต่กรณีการขึ้นชกของบัวขาวนั้น เป็นการขึ้นชกโดยไม่ได้รับความเห็นชอบของค่ายมวย และชื่อที่ใช้ในการชกก็ยังใช้คำลงท้ายว่า ป.ประมุก ในการแข่งขัน


       ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีการกระทำผิดตามสัญญาอย่างชัดเจน  และะเป็นเรื่องยากที่จะหาข้อแก้ตัว


       ในส่วนของบทลงโทษนั้นไม่มีระบุในพระราชบัญญัติกีฬามวย แต่ระบุไว้ในข้างท้ายของสัญญาสังกัดค่ายมวยดังนี้
       ข้อ 14. ในกรณีที่มีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นระหว่างคู่สัญญาเกี่ยวกับข้อกำหนดแห่งสัญญานี้ หรือเกี่ยวกับการปฏิบัติตามสัญญานี้ และคู่สัญญาไม่สามารถตกลงกันได้ ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเสนอข้อโต้แย้ง หรือข้อพิพาทนั้นต่อนายทะเบียนเพื่อไกล่เกลี่ย หากคู่สัญญายังไม่สามารถตกลงกันได้ ให้เสนอเรื่องต่ออนุญาโตตุลากรเพื่อพิจารณาชี้ขาด คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการให้ถือเป็นเด็ดขาด และถึงที่สุดผูกพันคู่สัญญา


       ซึ่งในส่วนนี้ สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย เป็นหน่วยงานที่สำคัญที่สุด ซึ่งเรื่องคดีความจากกรณีของนักมวยหนีออกจากค่ายไปนั้น เรื่องก็ยังอยู่ในการไกล่เกลี่ยของการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งประเด็นแรกยังหาข้อสิ้นสุดไม่ได้.......ก็เกิดกรณีที่ 2 ขึ้นมาอีก ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นได้


       หลายคนยังแสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวโดยภาพรวมว่า สัญญาดังกล่าวเป็นธรรมหรือไม่?? .......ผมต้องขอเรียนให้ผู้อ่านได้ทราบว่า สัญญาถูกเขียนขึ้นมาอย่างกว้างๆ และมีความยืดหยุ่นดีอยู่แล้ว ไม่ได้มีการกำหนดกฎเกณฑ์อะไรมากมาย เป็นสัญญาที่ทำขึ้นเพื่อป้องกันและรักษาสิทธิประโยชน์ในเบื้องต้นเท่านั้นครับ


       ถ้าถามถึงความคิดเห็นส่วยตัวต่อเรื่องนี้ ผมคิดว่าบัวขาวผิดอย่างชัดเจนนะครับ.........ถึงจะไม่ใช่ความผิดร้ายแรงอะไร เป็นเพียงแค่การทำผิดตามสัญญาเพียงเท่านั้น ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว  ด้วยความที่ว่า ที่นี่คือเมืองไทย สุดท้ายบัวขาวจะไม่ติดคุกอย่างแน่นอน และคงต้องทิ้งท้ายว่านี่แหล่ะครับ...คือสเน่ห์ของคำว่า"นักกีฬามืออาชีพ"อย่างแท้จริง


       วันนี้ขอรับใช้ในส่วนของกรณีที่เกิดขึ้นและเป็นที่สนใจในเบื้องต้นก่อน ไว้โอกาสหน้าผมจะมารับใช้เพิ่มเติม ในส่วนของสภาพโดยทั่วไปของกีฬามวยในบ้านเราให้ละเอียดมากขึ้นนะครับ  ขอบคุณที่ติดตาม